บันทึกความรู้สึกของพสกนิกรไทยที่มีต่อพ่อหลวง ผู้เป็นพลังและแรงบันดาลใจให้พวกเราได้ดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท

ธนภพ ลีรัตนขจร
“ผมไม่เคยเห็นพระมหากษัตริย์คนไหนที่เป็นผู้ให้ได้ขนาดนี้ ผมมองว่าตอนนี้คนไทยทุกคนกำลังตกอยู่ในภาวะความเศร้าแล้วตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือแทนที่เราจะกอดคอกันร้องไห้เราต้องกอดคอกันเดินหน้า แต่ไม่ใช่ว่าเราเดินหน้าโดยไม่นึกถึงท่านเลย เราต้องเอาคำสอนทั้งหมดของท่านมาใช้ครับ”

วินิจ สัมพันธรัตน์
“เป็นความภาคภูมิใจมากที่ได้เกิดใต้ร่มพระบารมีของในหลวง รัชกาลที่ 9 ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนที่รักประชาชนเทียบเท่ากับในหลวงของเรา ในหลวงของไทยจะรักคนไทยมาก ๆ ประทับใจภาพตอนที่ท่านทรงงานนั่งลงกับพื้นเพื่อพบกับประชาชนตามชนบท แสดงให้เห็นว่าท่านวางตัวเป็นพ่อมากกว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เพราะฉะนั้นประชาชนคนไทยทุกคนก็เลยรักท่านเพราะว่าท่านไม่ถือตัว”

ธมลวรรณ อริยะ
“พอทราบข่าวการเสด็จสวรรคตก็ช็อคมากค่ะ เพราะวันที่ 13 ตุลาคม เพิ่งไปสวดมนต์ให้พระองค์ท่านที่โรงพยาบาลศิริราช พอกลับมาถึงห้องก็ได้ยินข่าวการเสด็จสวรรคตของพระองค์ รู้สึกเคว้งคว้าง โหวงเหวงไปหมด เหมือนเสาหลักหายไป เหตุผลที่มาร่วมเป็นอาสาสมัครในวันนี้ เพราะเห็นคนป่วยเยอะ คนแก่บางคนมาคนเดียวหรืออาจจะมาด้วยกัน แต่บางทีเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือพยุงกันได้ เราก็เข้าไปช่วยค่ะ ถ้ามีโอกาสจะมาอีกเรื่อย ๆ ค่ะ”

วันชัย ยงวณิชย์ รอง ผอ. โรงเรียนสวนกุหลาบฯ
“ผมเคยเข้าเฝ้าพระองค์ท่านสมัยตอนเล็ก ๆ คุณแม่ของผมเทิดทูนพระองค์ท่านมาก พาไปเข้าเฝ้าที่วัดเบญจมบพิตร ท่านเสด็จพร้อมพระบรมสานุวงศ์ คุณแม่ของผมท่านเก็บรูปจากหนังสือพิมพ์ไว้เป็นรูปผมกราบอยู่ที่พื้น รูปนั้นก็ยังอยู่ที่บ้านคุณพ่อ พระองค์เสด็จที่ไหนคุณแม่ต้องไปเฝ้าตลอด แล้วก็พาผมไปด้วย ทำให้เราได้ซึมซับถึงบารมีของพระองค์ท่าน พอโตเราก็เลยรู้ว่าพ่อทำอย่างนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ในฐานะที่เราเป็นเพียงธุลีเล็ก ๆ แผ่นดินของเราเกิดจากสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งหนึ่งที่เรามองดูพระองค์ท่าน คือพระองค์ท่านทรงงานหนัก ทราบว่าถึงจะประชวรก็ยังทรงงานอยู่ ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ผมเคยทำโครงการตามรอยพระบาทด้วยศาสตร์พระราชา เป็นโครงการเกี่ยวกับเรื่องการบำบัดน้ำเสีย เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งว่าเราได้ทำเพื่อคลายความเหนื่อยยากให้พระองค์ท่านได้บ้าง”

ละออง เสาวรัตน์
“นึกถึงพระองค์ท่านทีไรน้ำตาก็จะไหลทุกที พระองค์ท่านน้ำพระทัยเปี่ยมล้นกับคนไทยมากเลยค่ะ ขณะท่านมีพระชนม์ชีพอยู่เคยไปเข้าเฝ้าพระองค์ท่านที่วัดบวรฯ ไปถวายพวงมาลัยท่าน ตอนนั้นตื้นตันมากเคยถวายท่าน 3 ครั้ง เราเห็นท่านเราพูดอะไรไม่ออกเลยน้ำตาไหล ท่านก็หันมาแล้วยิ้มให้ เราได้แค่บอกทรงพระเจริญเท่านั้น ท่านยิ้มแล้วเราก็น้ำตาไหล มีอยู่วันหนึ่งใส่เสื้อเหลืองแล้วเราก็ไปเดินนึกถึงพระองค์ท่าน แค่นึกถึงน้ำตาก็ไหลไม่รู้ตัวเลย เอ่ยถึงท่านไม่ได้เลย ภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นข้ารองบาทของพระองค์และอธิษฐานเสมอว่า เกิดชาติใดขอเป็นข้ารองพระบาทพระองค์ทุกชาติไป”

นายแพทย์ ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์
“เป็นความรู้สึกที่พวกเราพสกนิกรได้ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่พระองค์ได้สละทั้งกำลังพระวรกาย ทั้งเวลาของพระองค์กว่า 70 ปี ในการที่จะยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชนชาวไทย โดยที่พระองค์ไม่ได้มีความย่อท้อ พระองค์ใช้ทุกวินาทีของพระองค์เพื่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน ในฐานะข้าของแผ่นดินก็จะตอบสนองถวายงานต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้ว่าเราจะทำได้เพียงเศษเสี้ยวของพระองค์ก็ตาม เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทำให้กับพสกนิกร พวกเราโชคดีที่ได้เกิดในยุคสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นี้ครับ”

นิษฐา จิรยั่งยืน
“อยากขอบคุณอยากบอกท่านว่าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราชาวไทยแล้ว พระองค์ท่านก็ทรงงานมามากแล้วทำเพื่อพวกเราชาวไทยมามากมายเหลือล้นแล้ว ณ วันนี้อยากให้ท่านได้พักบ้าง ต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกเราแล้วที่จะดำเนินชีวิตต่อไปโดยยึดตามหลักคำสอนของท่านค่ะ”

อติชาติ วัฒนาพิเชษฐ์พงศ์
“พวกผมทุกคน จะพยายามช่วยกันสร้างสิ่งที่ดีงามให้คงอยู่ไว้อย่างที่พ่อหลวงต้องการให้เป็นผมศึกษากระบวนการทำงานของพระองค์ท่าน ทำให้ได้ทราบว่าการเป็นผู้นำ เราต้องเข้าใจทุก ๆ คน และเราต้องพาสังคมนั้นไปยังจุดหมายให้ได้ สิ่งที่ผมต้องทำคือ การเข้าใจและร่วมกันทำ ร่วมกันแก้ไขปัญหา และพาทุกคนไปสู่เป้าหมายให้สำเร็จ”

สรวิชญ์ สุบุญ
“พระองค์สอนเราตลอดเวลาและพระองค์ท่านคือคำสอนที่ดีที่สุด เพราะว่าท่านสอนด้วยการกระทำ ทุกอย่างที่เรียงร้อยเป็นคำสอนท่านทำเองหมดแล้ว อย่างเรื่องพอเพียงตัวท่านคือผู้ที่พอเพียงที่สุด และพระองค์ท่านทรงห่วงใยเรามาก พยายามทำให้คนไทยอยู่ดีกินดี โดยไม่ห่วงพระวรกายของพระองค์เอง พระองค์ไม่เคยตรัสว่าเหนื่อยสักครั้งเลย”

รัสปารีส์ เฟื่องอารมณ์
“พระองค์เปรียบเสมือนพ่อท่านทรงเหนื่อยไม่เคยหยุดพักพระองค์มีบุญคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ดีใจที่ได้มาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ถึงจะเข้าไปในสนามหลวงไม่ได้ แต่ก็ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่านไม่มีประเทศไหนที่เราจะมีความสุข อยู่ร่มเย็นเป็นสุขได้เหมือนที่นี่ ประเทศไทยดีที่สุดในโลกค่ะ”

ส.ต.ท. ธนบดินทร์ พรหมรักษ์
“ผมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน การทำงานของผมในอาชีพตำรวจหน้าที่หลัก คือ การถวายความปลอดภัยให้กับพระองค์อยู่แล้วครับ ภูมิใจที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทยในสมัยของรัชกาลพระองค์ท่านและก็มีความยินดีที่ได้รับใช้พระองค์ท่านในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ”

วรากร ใจดี อาจารย์โรงเรียนสวนกุหลาบฯ
“สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตน ก็คือคำสอนของพระองค์ ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าพระองค์ไม่ได้เสด็จไปไหน พระองค์จะอยู่กับเราตลอด พระองค์จะทอดพระเนตร พระองค์จะมองเราอยู่ คำสอนที่ผมจำขึ้นใจ คือคำสอนที่พระองค์เสด็จไปทางภาคเหนือที่พระองค์ตรัสกับครูชาวเขาว่า คุณเป็นครูใช่มั้ยต้องสอนให้เขาเป็นคนดีนะ จำประโยคนี้ได้ขึ้นใจเลยพระองค์เป็นถึงพระเจ้าแผ่นดิน เสด็จไปเพื่อความสุขของประชาชน ไปเพื่อพัฒนาประเทศ ไปดูว่าตรงไหนจะแก้ไข ตรงไหนที่จะพัฒนา ไม่ได้ดูแค่ในส่วนของกายภาพ แต่ดูไปถึงเรื่องของคนด้วย พยายามสอนให้ทุกคนเป็นคนที่มีคุณค่า ข้าพระพุทธเจ้าขอตั้งจิตปณิธานว่าจะดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท จนกว่าจะสิ้นลม ขอนำพระองค์เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพของข้าพเจ้าตลอดไป”

อมาวรินทร์ อินทรีย์สุข
“ตั้งใจที่จะมาน้อมถวายอาลัยกับพ่อหลวงของเราค่ะ ต้องมาจุดนี้ให้ได้ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะเดินทางกลับต่างประเทศ ภูมิใจมากที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ในรัชกาลที่ 9 ตอนอยู่ต่างแดนเราก็จะทำพิธีในทุกวันที่ 5 ธันวาคม และจะมีกิจกรรมให้กับชุมชนชาวไทยที่เมืองดัลลาส เท็กซัส ก็รู้สึกว่าภาคภูมิใจมาก ไม่ว่าจะมีสิ่งใดที่เราสามารถทำเพื่อพ่อหลวงของเราได้ก็ยินดีเสมอค่ะ”

สร้อยทอง ภาคไชย
“ทางเขตได้มอบหมายให้เรามาทำหน้าที่ตรงนี้ บริการประชาชนและก็เก็บขยะในจุดที่เป็นศูนย์รวมของถังขยะและเดินเก็บกวาดด้วย ไม่เหนื่อยนะภูมิใจที่ได้มาทำตรงนี้และก็คิดว่าเราเหนื่อยยังไม่ได้เศษเสี้ยวนิดเดียวของในหลวงท่านเลย อยากจะทำอะไรที่ดีที่สุด เลยคิดว่าถ้าตอนนั้นพ่อหลวงยังอยู่ ถ้าเราแบ่งอายุให้พ่อหลวงได้ให้พ่อหลวงอายุยืนยาวกว่านี้ได้ก็จะดี”

นัชชา ยืนยงอนันต์
“พระองค์ท่านทำให้ผมรู้สึกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรานั้น สร้างให้ประชาชนคนไทยอยู่ได้อย่างทุกวันนี้ ครั้งหนึ่งผมเคยเข้าไปพระตำหนักจิตรลดา ด้านในมีโครงการในพระราชดำริมากมายก็คิดว่าในวังเขาทำแบบนี้กันด้วยเหรอ ได้ทราบว่าพระองค์เสด็จมาบ่อย ๆ ทำให้รู้สึกว่า พระองค์ทำเพื่อประชาชน ทรงงานตลอดเวลาทำงานมากกว่าพวกเราเสียอีก”

พ.ต.ต.ภาวพันธ์ ดุลพฤกษ์
“ขนาดเป็นกษัตริย์ พระองค์ท่านยังทรงงานหนักขนาดนี้ เราเป็นข้าราชการ เราก็จะต้องทำงานให้สมหน้าที่ เป็นทั้งตำรวจและแพทย์ก็ต้องทำงานให้เต็มที่ครับ ภาคภูมิใจที่เรามีกษัตริย์เก่งและทรงงานหนักทำให้บ้านเมืองเราเจริญมาได้ถึงทุกวันนี้ ผมก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่านร่วมกันทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่นะครับ เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่พ่อหลวงครับ”

สมบูรณ์ พร้อมใจเสมอ
“ผมว่าประเทศไทยเสียของรักไปเพราะว่าท่านทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยไว้มากมายจนเราจำไม่ได้หมดว่าท่านเคยทำประโยชน์อะไรบ้างให้กับประเทศ ความสุขทุกวันนี้ที่ในประเทศมีอยู่ก็คือ ในหลวงเท่านั้นเอง คนไทยทุกคนควรสำนึกว่าเราอยู่ประเทศไทยมีอิสระไม่ว่าอาหารการกิน การท่องเที่ยว ความเป็นอยู่ผมว่าดีกว่าทุกประเทศ ถึงเราจะด้อยกว่าประเทศอื่นบ้างในบางเรื่อง แต่ความสุขในประเทศไทยเมื่อรวมกันเป็นหนึ่ง เราก็สามารถสู้ประเทศอื่นเขาได้”

ณัฐจักร แสงบัวเผื่อนวรา อาจารย์โรงเรียนศรีบุญยานนท์
“พระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยมากๆเลย กระผมนั้นซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมากครับ เนื่องจากผมเป็นครู พระองค์ท่านบอกว่าให้สอนเด็กให้เป็นคนดี อันนี้เป็นความหมายที่ค่อนข้างกว้าง เพราะฉะนั้นผมก็จะทำตามที่ท่านเคยรับสั่งไว้กับครูคนหนึ่งว่า ช่วยสอนเด็กให้เป็นคนดีครับ นั่นคือแนวคิดที่จะดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท เป็นครูจะต้องมีความมานะอดทน ต้องมีความวิริยะอุตสาหะ พระองค์ท่านมีความวิริยะอุตสาหะและก็มีความมานะอดทนมากครับ ตรงนี้ผมยึดมาเป็นหลักประจำใจในอาชีพของผมครับ”

ณัฐกิตติ์ อนันทวณิชชยา
“ผมจะนำพระบรมราโชวาทและคำสอนของพระองค์ท่านมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต สิ่งแรกก็คือ ความเมตตา ความรัก ความสามัคคี การเห็นเพื่อนมนุษย์เป็นบุคคลร่วมชีวิตกับเรา บุคคลที่เราจะต้องทำคุณประโยชน์เพื่อส่วนรวม”

อามีนา กูล
“รู้สึกซาบซึ้งใจในสิ่งที่ในหลวงได้ทำค่ะ แม้ว่าเราเองจะไม่ได้เห็นพระราชกรณียกิจทุกอย่างที่ท่านได้ทำอย่างใกล้ชิดแต่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ท่านทำมันยิ่งใหญ่และเราก็อยากจะตอบแทนท่านถึงจะตอบแทนไม่ได้มาก แต่ว่าก็จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ”

พญ.นริศา บราวเนล
“จะหาคนที่เหมือนพระองค์คงไม่มี ดีใจค่ะที่ได้เกิดเป็นคนไทยและก็รู้สึกว่าเราอาจจะทำไม่ได้ทุกอย่างเช่นพระองค์ท่าน แต่ว่าเราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอแล้ว เลยอาสามาตรงนี้เพราะคิดว่าน่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อถวายแด่พระองค์ท่านแล้วก็อยากมาส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย”

เด่นคุณ งามเนตร
“ผมจะเก็บความเสียใจไว้ในใจและเดินหน้าต่อไปด้วยการยึดหลักตามที่พระองค์ท่านเคยสอนพวกเราทุกคน พระองค์ท่านทรงเป็นตัวอย่างที่ให้ผมได้เป็นผู้เป็นคนได้ทุกวันนี้ และผมเชื่อว่าพระองค์อยากที่จะบอกคนไทยทั้งประเทศว่าอย่าเครียด และผมก็อยากบอกพระองค์ท่านว่าตื้นตันมาก ๆ ที่ทำให้ผมมีที่กิน มีที่นอน มีทุก ๆ อย่าง มีความสุข ขอให้ทุกคนอย่ามีความทุกข์ เข้มแข็ง และเดินต่อไปครับ ประเทศไทยสยามเมืองยิ้มครับ”

พ.ต.ท.หญิง กัญจฬวัตน์ โพธิปัสสา
“เวลาที่เราเหนื่อยหรือว่าเราท้อ เราก็จะมีพระองค์ท่านเป็นหลักที่จะคอยยึดถือปฏิบัติตาม เวลาที่เราเห็นพระองค์ท่านทรงทำงานหนัก เราจะรู้สึกว่าท่านทำเยอะกว่าเรา ก็ทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำงานของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ สิ่งหนึ่งที่จำได้ขึ้นใจเลยแล้วก็ทำในชีวิตประจำวันทุกวันคือ จงอย่าละทิ้งหน้าที่ ท่านเคยตรัสเอาไว้แล้วเราก็จำเอาไว้ใช้ตลอดเลยค่ะ ซึ่งตรงนี้อยากจะให้หลายคนที่ทำงานอะไรก็ตาม อยู่ในหน้าที่ใด ๆ ก็ตาม อย่าละทิ้งหน้าที่ของตัวเองเพราะทุกคนมีหน้าที่ในสังคม ถ้าเราช่วยกันทำแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็จะทำให้สังคมไทยเจริญก้าวหน้าได้ค่ะ”

พศุตม์ บานแย้ม
“ผมเป็นเด็กค่อนข้างเกเรแต่พอได้ฟังคำสอนของท่านเรารู้สึกว่าการพอเพียงนั้นสำคัญบางคนบอกว่าเราซื้อรถแพงทำไม เราทำด้วยตัวเองและรู้สึกว่ามีความสุข เราสนองความที่เราอยากได้และมีความสุขกับมันไม่ต้องประหยัดมาก ไม่ต้องฟุ่มเฟื่อยมาก แค่ทำในสิ่งที่เราชอบที่เรารักผมคิดว่าท่านอยากให้เราทำแบบนั้นมากกว่าครับ”

ธรรมรัตน์ จูปรางค์
“สมัยก่อนพระองค์จะให้ทางกองราชเลขาฯ นำลายพระหัตถ์ของท่านมาส่งโทรเลขไปที่ต่าง ๆ เมื่อได้เห็นก็รู้สึกซาบซึ้งและอยากส่งต่อสารอย่างดีที่สุด พยายามตรวจทานเพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องซึ่งภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต และปลาบปลื้มที่ได้รับสนองงานท่านตรงนี้ครับ เราโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงรักพสกนิกรของท่าน โชคดีมากที่สุดเลยครับ”

ธนิน มนูญศิลป์
“ท่านคือพ่อของทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นมันกระทบต่อจิตใจของคนไทยมาก บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ ปกติเราจะมีพระบรมฉายาลักษณ์อยู่ที่บ้าน เราก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อได้ทำไว้ พยายามจะคิดว่าพ่ออยากเห็นสิ่งที่พ่อรักษาไว้เดินหน้าต่อไปความรักที่คนไทยมีต่อกัน ผมเชื่อว่าท่านอยากเห็นสิ่งนี้ที่เรารักษามันไว้ได้ต่อไป ในวันที่ไม่มีพ่อครับ”

วรินทร ปัญหกาญจน์
“ผมว่าคนไทยหลาย ๆ คนเจอกับคำถามนี้ก็คงไม่รู้จะเลือกตอบยังไง เพราะสิ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อปวงชนชาวไทยมีเยอะมากสำหรับผมรู้สึกรักและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านครับ”

สายันต์ เจริญสุข
“ผมเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันที่ 13 ตุลาคม ได้ไปที่โรงพยาบาลศิริราชไปกราบถวายพระพรขอให้ท่านทรงพระเจริญ แต่พอทราบข่าวการสวรรคตของท่านในวันเดียวกันนั้น ผมเสียใจเป็นอย่างยิ่งครับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว มาที่สนามหลวง 5 ครั้งแล้วครับ มาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี มากราบพระบรมฉายาลักษณ์ด้านในพระราชวัง และก็มาโบกธงถวายท่านอีก 3 ครั้งครับ เหตุผลเพราะผมเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่านคนหนึ่งเช่นกันครับ เพราะผมเกิดบนผืนแผ่นดินไทย ผืนแผ่นดินแห่งนี้พระมหากษัตริย์ท่านทรงเสียสละมากครับ”

ณัฐพล อังศุธานนท์  และบุญฤทธ์ จันทร์รัตนโสภา
“เสียใจมากครับ เพราะว่าท่านเป็นพ่อของแผ่นดินของเรา ผมเชื่อว่าไม่มีใครไม่เสียใจหรอกครับ การจากไปของท่านสำคัญอย่างยิ่ง แรงบันดาลใจที่ได้จากพระองค์ท่าน ถ้าเป็นภาษาชาวบ้าน คือ ท่านเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็คมากนะครับ เล่นกีฬาก็เก่ง เล่นดนตรีก็เก่ง เป็นศิลปินที่ทำได้ทุกอย่างครับ และเป็นพระราชาที่ทรงงานเหน็ดเหนื่อยมากครับ จะยกคำสอนที่ท่านเคยบอกว่า จงเป็นน้ำครึ่งแก้วที่คอยเติมเต็มความรู้อยู่ตลอดเวลา พวกผมเรียนคณะสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เมื่อเรียนจบไปจะเป็นวิศวกรที่ดีของชาติครับ”

.................................................

“ข้าแผ่นดินในรัชกาลที่ ๙” ภายในเล่มประกอบด้วยเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่านตลอดระยะเวลา 89 ปี และพิเศษสุดด้านในยังแทรกด้วยพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ผลงานของอาจารย์ชูศักดิ์ วิษณุคำรณ จำนวน 8 ภาพ ซึ่งสามารถนำออกมาประกอบกันเป็นภาพชุด “เป็นรวงทอง รวงข้าวของพ่อ” เพื่อใส่กรอบเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อได้ตามแผงหนังสือชั้นนำ หรือสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ บริษัท มิตรมายา จำกัด ในราคา 140 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง 50 บาทต่อ 1 เล่ม)
Tel: 0-2460-1534-5 หรือ 08-7795-2111
E-mail: [email protected]
Facebook: MiXMagazineThailand
Line: mixmagazine