การทำธุรกิจสายบินนั้นไม่ง่ายที่จะทำให้ผู้ใช้บริการพึงพอใจ แต่สายการบินแควนตัส และบริติช แอร์เวย์ ก็ได้คนดีมีฝีมืออย่าง มร.นีล เอเกอร์ ซึ่งเป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม มาดูแลส่วนภูมิภาคนี้ได้เกือบสองปีแล้ว

มร.นีล เอเกอร์ ชื่นชอบเรื่องที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินมาตั้งแต่ยังเด็ก อีกทั้งยังเป็นนักสะสมโมเดลเครื่องบินตัวยง ที่เป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะพ่อของเขาเป็นช่างเทคนิคอยู่ที่สนามบินในเมืองแมนเชสเตอร์ ทำให้เขาฝังใจกับอุตสาหกรรมการบิน เมื่อจบการศึกษา เขาได้ทำงานแรกกับสายการบิน บริแทนเนีย (Britannia Airway) ซึ่งเป็นสายการบินเพื่อการท่องเที่ยว และในเวลาต่อมา หลังจากที่ร่วมงานกับสายการบินบริแทนเนียได้ 7 ปี ได้สะสมประสบการณ์ทำงานมาร่วมงานกับสายการบินบริติช แอร์เวย์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะย้ายไปประจำการที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ซึ่งที่นั่น เขาได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงานกับทั้งสายการบินบริติช แอร์เวย์ และสายการบินแควนตัส เนื่องจากมีการทำข้อตกลงร่วมกัน (Joint Service Agreement) ว่าสำนักงานของทั้งสองสายการบินต้องอยู่ที่เดียวกัน พนักงานทำงานให้ทั้งสองสายการบิน แต่เครื่องบินให้บริการแก่ผู้โดยสารแยกกันคนละลำ หลังจากนั้นก็ย้ายมารับตำแหน่งในประเทศไทย ดูแลการดำเนินงานของทั้ง แควนตัส และ บริติชแอร์เวย์ เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วเป็นประเทศล่าสุด

“ผมรู้สึกว่าเวลาในช่วง 6 เดือนแรกที่มาปฏิบัติงานมันผ่านไปเร็วมาก ผมพยายามที่จะเรียนรู้ว่าทีมงานในประเทศไทยเป็นอย่างไร อุตสาหกรรมการบินในประเทศไทยเป็นแบบไหน ตลอดจนการเรียนรู้วัฒนธรรม เพราะผมเหมือนมาจากอีกโลกหนึ่ง ต้องมาเรียนรู้ว่าที่นี้เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นก็พาครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วก็พยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม การสร้างความสัมพันธ์กับบริษัทท่องเที่ยว การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

“ถามว่าความกดดันมีไหม มีแน่นอน เพราะสายการบินผ่านประสบการณ์ความยุ่งยากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่สายการบินทั่วโลกที่มีปัญหาเรื่องรายได้ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ขณะเดียวกันการเดินทางก็มีเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ถือเป็นเรื่องท้าทายก็คือเรื่องค่าน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น หรืออย่างในประเทศไทยเองก็มีความวุ่นวายด้านการเมือง มีการประท้วงต่างๆ หรือจะเป็นการปิดน่านฟ้าของยุโรปเนื่องจากเถ้าภูเขาไฟปะทุที่ไอซ์แลนด์ ก็ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งที่เราผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้”

ในเรื่องของธุรกิจการบินนั้น ความน่าเชื่อถือในแบรนด์ของสายการบินนั้นถือเป็นสิ่งที่อยู่ลึกๆ ในใจของผู้ใช้บริการ การเป็นที่ยอมรับเชิงพาณิชย์ การเป็นสายการบินเก่าแก่เป็นอันดับสองของโลกและอยู่ในเมืองไทยมานานถึง 57 ปี อย่างสายการบินแควนตัสจึงเหมือนเป็นโจทย์ที่ต้องรักษาระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นตลอดเวลา กระทั่งในปัจจุบัน แควนตัสก็ได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา จ้างดีซายเนอร์ที่มีชื่อเสียงอย่าง มาร์ค นิวสัน เข้ามาช่วยออกแบบห้องผู้โดยสาร หรือแม้แต่ขั้นตอนการเช็คอินก็ลดขั้นตอนเพื่อความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยการแนะนำบริการที่เรียกว่า นิว เจเนอเรชั่น เช็คอิน (New Generation check-in) ซึ่งมีแล้วในประเทศออสเตรเลีย และจะขยายไปในเส้นทางต่างประเทศในเร็ววันนี้

“แควนตัสคือสายการบินแรกของโลกที่มีที่นั่งผู้โดยสารชั้นธุรกิจ เรามีเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดในโลกคือแอร์บัส A380 ที่มีอยู่ถึง 10 ลำ และจะมีการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787 มาให้บริการอีกในปีหน้า ในส่วนของภาคพื้นดินก็มีการให้บริการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาครับ

“ในเรื่องของแผนการ ตอนนี้ผมพยายามที่จะดำเนินงานสร้างผลกำไรสร้างรายได้ คือเรามีการควบคุมค่าใช้จ่าย เราต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่าและประหยัด อันไหนที่ประหยัดได้ก็ประหยัดทั้งทั่วโลกและในประเทศไทย แต่ในเรื่องธุรกิจเราก็พยายามเพิ่มสร้างรายได้ให้มีต่อไป ส่วนไหนที่ดีแล้วเราก็จะพยายามปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศไทยหรือตลาดทั่วโลก” 

Know Him!

>> ด้วยตำแหน่งที่มีทำให้ มร.นีล เอเกอร์ ดูเป็นผู้ใหญ่แต่ความจริงแล้วเขาอายุ เพียง 35 ปีเท่านั้น

>> เห็นมาดดูเป็นนักธุรกิจแบบนี้ แต่ในวัยยี่สิบกว่าๆ เขาเคยเป็นนักกีฬารักบี้ใน สโมสรลีกแห่งชาติ แต่ปัจจุบันหันมาสนใจกีฬากอล์ฟ

>> แม้จะมีบ้านเกิดอยู่ที่แมนเชสเตอร์ แต่เขากลับเป็นแฟนตัวยงของลิเวอร์พูล

>> เขาชอบเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างในหลายทวีป ส่วนในประเทศไทยเขาชอบไปทะเลทางภาคใต้อย่างกระบี่ และภูเก็ต