เที่ยวปีใหม่ ให้ปลอดภัยและมีสุขภาพดี

เที่ยวปีใหม่ ให้ปลอดภัยและมีสุขภาพดี

“สวัสดีวันปีใหม่พา ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์ ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม ต่างสุขสมนิยมยินดี …”

หมอได้ยินเสียงเพลงแห่งความสุขของวันปีใหม่เข้ามาในความคิด บรรยากาศแห่งความสนุกรื่นเริง ทุกคนต่างยิ้มแย้มแจ่มใส ส่งความสุขด้วยของขวัญ หรือการ์ดอวยพร เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกดีทุกครั้งที่คิดถึงจริงๆ และในช่วงเทศกาลงานฉลองต่างๆ นี่เองที่จะอุดมไปด้วย เค้ก ช็อกโกแลต น้ำอัดลม หรือแม้กระทั่งเหล้า เบียร์ ไวน์ต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้ และเป็นที่แน่นอนว่าอาหารและเครื่องดื่มเกือบทั้งหมดที่กล่าวไป ล้วนอยู่ในหมวดอาหารขยะ และมีโทษต่อสุขภาพทั้งสิ้น

หมอบอกแบบนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วอย่างนี้จะฉลองปีใหม่ให้สนุกและเต็มที่ได้อย่างไร ซึ่งหมอก็มีข้อแนะนำในการฉลองปีใหม่โดยไม่เสียสุขภาพและปลอดภัยมาฝากกันครับ

อย่างแรกก็คือควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ทั้งหลาย เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ซึ่งการที่จะไม่ดื่มเลยถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด และการที่เราไม่ดื่มก็ทำให้เราสามารถที่จะเที่ยวได้อย่างเต็มที่ สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร (การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะกันในสถานที่ต่างๆ เพราะการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้จะทำให้การยับยั้งชั่งใจลดลง) 

ไม่เพียงลดการทะเลาะเบาะแว้ง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงอุบัติเหตุในการขับรถก็จะลดลง และไม่ต้องเสี่ยงกับคุกหรือตะรางเพราะเมาแล้วขับอีกด้วย ซึ่งในประเทศไทยได้กำหนดมาตรการในการตรวจจับผู้ขับขี่ โดยถือเอาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ขับขี่ที่เมาสุรา และมีความผิด ตามที่กำหนดไว้ ผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 160 ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535) และแน่นอนว่าความผิดนี้ถือเป็นความผิดอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้

ในแง่กฎหมายสามารถดื่มได้แค่ไหนก่อนจะขับรถ (คำนวณจากทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ที่ระดับน้ำหนักตัวต่างๆ กันโดยเฉลี่ย) 

1 ชั่วโมงก่อนขับรถสามารถดื่ม (โดยที่ก่อนหน้านี้ต้องไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์มาก่อน)
สุรา 2 แก้ว แก้วละ 3 ฝา (ฝาละ 15 มล.) ... หรือเบียร์ 2 กระป๋อง หรือ 2 ขวดเล็ก ... หรือไวน์ 2 แก้ว แก้วละ 150 มล. ซึ่งถ้าดื่มอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อมูลข้างต้น เมื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดแล้ว จะไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และในชั่วโมงต่อมาดื่มได้อีกไม่เกินครึ่งหนึ่งของปริมาณดังกล่าว และหลังจากนี้ควรจะหยุดดื่ม

แต่อย่างไรก็ดี จากสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ผ่านมาพบว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดแม้เพียงเล็กน้อย ก็ยังมีผลต่อการขับขี่ยานพาหนะได้เช่นกัน

ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จริงๆ ก็ควรจะมีวินัยในตนเองและควรจะมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยง่ายที่สุดก็คือไม่ควรขับยานพาหนะใดๆ หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว ซึ่งสามารถวางแผนได้ตั้งแต่ก่อนออกไปงานเลี้ยง ในเรื่องของยานพาหนะและการเดินทาง 

อย่าทำให้งานเลี้ยงฉลองปีใหม่ปีนี้เป็นงานสุดท้ายของชีวิตของคุณหรือผู้อื่น (เพราะคุณเป็นต้นเหตุ) เลย และควรจะท่องคาถาป้องกันอุบัติเหตุในขณะที่ไปงานเลี้ยงฉลองต่างๆว่า “เราสามารถที่จะสนุกกับงานฉลองได้เต็มที่โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแอลกอฮอล์แต่อย่างใด”

หลังกลับจากงานเลี้ยงแล้ว ในแง่การดูแลตนเองตามธรรมชาติบำบัด สามารถใช้การสวนกาแฟ ร่วมกับการอดล้างพิษทั้งแบบ 1 วัน และ 10 วัน เพื่อลดสารพิษที่ได้รับทั้งจากบรรดาอาหารขยะและแอลกอฮอล์ได้ดี นอกจากนี้ ควรจะกินวิตามิน บี 100 มก. เพื่อชดเชยปริมาณวิตามินบีให้ร่างกาย ซึ่งมักจะสูญเสียไปหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ และควรจะกินวิตามินซีชีวภาพ 1,000 มก. 1 เม็ด 4 เวลา ในวันที่ไปเลี้ยงฉลองเพื่อลดปริมาณอนุมูลอิสระที่ได้รับจากอาหารขยะ ซึ่งเป็นวิธีป้องกันและแก้ไขผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการฉลองปีใหม่ 

การฉลองปีใหม่ให้สนุกโดยไม่เสียสุขภาพ เป็นสิ่งหนึ่งที่ถ้าใครตระหนักถึง เท่ากับคนๆ นั้น ได้เริ่มต้นสิ่งดีๆ ให้สุขภาพของตนเองตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากสำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ สิ่งดีๆ ให้แก่ชีวิต 

อยากเหลือ 0 ต้องทำตามนี้
ถ้าต้องการจะทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเหลือ 0 มก.เปอร์เซ็นต์ จะต้องรอเวลาตามนี้ 
1 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับเบียร์ 1 กระป๋อง 
2 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับเบียร์ 2 กระป๋อง
3 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับเบียร์ 3 กระป๋อง
4 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับเบียร์ 4 กระป๋องและจะต้องรอเกินกว่า 4 ชั่วโมงครึ่งขึ้นไป สำหรับการดื่มเบียร์มากกว่า 4 กระป๋อง

Tips for drinking in Moderation

รู้ขีดจำกัดของตัวเองในการดื่ม และไม่ควรจะดื่มเกิน 1 แก้วต่อชั่วโมง และเมื่อถึงขีดจำกัดควรหาเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อื่นมาดื่มแทน 
อย่าปล่อยให้ท้องว่าง ให้กินอาหารไปด้วยในขณะดื่ม เพราะจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ช้าลง
ให้ดื่มแบบจิบๆ ถ้าทีเดียวหมดแก้วจะยิ่งทำให้เมาเร็วขึ้น
ให้ดื่มเฉพาะที่ต้องการดื่มเท่านั้น สาวเชียร์เบียร์หรือเพื่อนที่คะยั้นคะยอให้เราดื่มก็ไม่ต้องไปสน
ให้สลับการดื่มระหว่างแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ เพื่อลดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดลง 
อย่านั่งอยู่เฉยๆ ให้ลุกขึ้นเดินบ้าง จะทำให้ดื่มน้อยลง และจะรับรู้ถึงอาการเมาได้ดีกว่า
ให้ระวังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่คุ้นเคย เพราะบางแก้วนั้นหนักเกินไปจริงๆ 
ให้ดื่มด้วยความระมัดระวัง เมื่อต้องกินยา เพราะยาบางชนิดจะมีผลข้างเคียงมากขึ้นมาก เมื่อดื่มกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น พวกกลุ่มยาพาราเซตตามอล

Tips for drinking in Moderation